close

This option is currently not available

Close close
มูลนิธิศุภนิมิตฯ จับมือ 24 หน่วยงานลงนาม MOU

มูลนิธิศุภนิมิตฯ จับมือ 24 หน่วยงานลงนาม MOU

เพื่อดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไข้มาลาเรียในพื้นที่แพร่เชื้อสูง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

โรคไข้มาลาเรีย หรือที่เรียกแตกต่างกันไปตามลักษณะอาการหรือฤดูกาลเกิดโรค ไม่ว่าจะเป็น ไข้จับสั่น ไข้ป่า ไข้ดง ไข้ดอกสัก ไข้ร้อนเย็น หรือ ไข้ป้าง มียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรค ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หนาวสั่น ซีดลงเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก ถ้าเป็นชนิดรุนแรงอาจมีอาการไตวาย ตับอักเสบ ปอดผิดปกติ และอาจมีอาการผิดปกติทางสมองที่เรียกว่า มาลาเรียขึ้นสมอง ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชน

จากรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมาลาเรีย (กรมควบคุมโรค) พบว่า “สถานการณ์โรคมาลาเรียในปี 2566 พบพื้นที่ที่มีผู้ป่วยสูงและเพิ่มขึ้น 6 จังหวัด (ก.พ.พ.ค. 2566) ได้แก่ ตาก แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ป่วย 2,991 ราย คิดเป็น 96% ของผู้ป่วยทั้งประเทศ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเนื่องจากพ้นช่วงโควิด-19 แล้ว ทำให้มีการเดินทางข้ามแดนมากขึ้น ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น

เนื่องในโอกาส วันมาลาเรียโลก 2566 มูลนิธิศุภนิมิตฯ จับมือหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคม 24 หน่วยงาน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไข้มาลาเรียในพื้นที่แพร่เชื้อสูง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดรุนแรงของโรคไข้มาลาเรียและประชากรส่วนใหญ่มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก และมีการเข้าออกของกลุ่มประชากรข้ามชาติ จำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังเพื่อควบคุมการระบาดของโรค และมีความสำคัญอย่างยิ่งในการ สร้างหลักประกันการมีสุขภาวะที่ดี และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนประการที่ 3โดยมี นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีฯ พร้อม แพทย์หญิงเสาวนีย์ วิบุลสันติ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ  ในอำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

นางสาวจินตนา ธรรมสุวรรณ ผู้จัดการแผนกรับทุนกองทุนโลก มูลนิธิศุภนิมิตฯ กล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นพื้นที่หนึ่งในการดำเนิน โครงการกำจัดเชื้อมาลาเรียที่ดื้อยาในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Regional Artemisinin Initiative 3 Elimination (RAI3E) ซึ่งมูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนโลก (Global Fund) วันนี้รู้สึกยินดีมากๆ ที่งานมาลาเรียมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคมในระดับท้องถิ่น ซึ่งเราจะนำตัวอย่างที่ดีนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นบทเรียนสำหรับพื้นที่อื่นต่อไป มูลนิธิศุภนิมิตฯ เป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่พร้อมจะร่วมขับเคลื่อน และหนุนเสริมทุกหน่วยงาน ในการดำเนินพันธกิจด้านการป้องกันควบคุมโรคไข้มาลาเรีย ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มประชากรข้ามชาติ ให้ครอบคลุมมากที่สุด”

กว่า 8 ปี ที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ดำเนินโครงการด้านโรคไข้มาลาเรีย ปัจจุบันมีการดำเนินงานใน 2 พื้นที่ ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.ตาก โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นประชากรข้ามชาติและกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย ด้วยเหตุที่เป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลายจึงพบปัญหาการสื่อสารกับผู้คนในชุมชน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น มูลนิธิศุภนิมิตฯ จึงตั้งเป้าหมายในการสร้างอาสาสมัครที่เกิดจากคนในชุมชนเพื่อให้งานที่เกิดขึ้นสามารถอยู่ในชุมชมอย่างยั่งยืน การให้สุขศึกษาโดยเฉพาะเรื่องโรคไข้มาลาเรีย การสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกัน อาทิ มุ้งชุบสารเคมี ยากันยุง รวมถึงการทดลองทำสเปรย์ และยาหม่องตะไคร้หอมไล่ยุงมอบให้แก่คนในชุมชนนำร่อง รวมไปถึงการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก การส่งต่อให้เข้าระบบการรักษาอย่างถูกต้อง จนถึงการติดตามการกินยาของผู้ป่วย การประสานงานเพื่อควบคุมไข้มาลาเรียระหว่างประเทศ เป็นการดำเนินงานอย่างทั้งเชิงการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคด้วย

“มูลนิธิศุภนิมิตฯ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานเพื่อยับยั้งและกำจัดการแพร่ระบาดของเชื้อมาลาเรีย และได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ ประเทศไทยปลอดโรคไข้มาลาเรีย ภายในปี 2567 ให้ประสบความสำเร็จต่อไป” คุณจินตนา ธรรมสุวรรณ กล่าว