close

This option is currently not available

Close close
กว่าจะได้ขึ้นเวร ‘สายด่วน 1422’

กว่าจะได้ขึ้นเวร ‘สายด่วน 1422’

‘ศุภนิมิตฯ’ และ ‘WHO Thailand’ พัฒนาอาสาสมัครสาธารณสุขแรงงานต่างชาติ

ความชุกในการระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบันแม้จะลดน้อยลง หลายคนคิดว่าเราได้เข้าสู่ระยะปลอดภัยจากโรคโควิด-19 แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วประเทศไทยยังคงพบการเจ็บป่วยจากเจ้าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้อย่างต่อเนื่อง

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับโรคติดต่อที่เคยสร้างความเสียหายไปทั้งโลก มูลนิธิศุภนิมิตฯ โดยการสนับสนุนจาก องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ได้จัดการอบรม การพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขแรงงานต่างชาติ (อสต.) สายด่วน 1422 กรมควบคุมโรค ให้พร้อมรับมือต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยมีผู้เชี่ยวชาญทั้งจากสำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ และกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นำข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน พร้อมด้วยระเบียบวิธีการในการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เป็นประชากรข้ามชาติ ช่องทางในการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ของประชากรข้ามชาติ พร้อมชวนอาสาสมัครสาธารณสุขแรงงานต่างชาติ (อสต.) มาช่วยกันระดมคิดไขคำตอบของคำถามที่พบเจอบ่อยถึงบ่อยที่สุดจากผู้ที่โทรเข้ามา ‘สายด่วน 1422’ ทั้งนี้เพื่อให้ อสต. ทั้งชาวเมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และลาว สามารถถาม-ตอบให้กับผู้ที่ติดต่อเข้ามาขอคำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง

“การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังคงเป็นความจำเป็น สำหรับแรงงานข้ามชาติสามารถติดต่อสอบถามกับสถานพยาบาลใกล้บ้านได้ โดยใช้พาสปอร์ต บัตรชมพู โดยหากผู้ที่โทรเข้ามาขอคำปรึกษาไม่มีเอกสารประจำตัว สามารถแนะนำให้ใช้เอกสารการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครั้งล่าสุดไปแสดงได้ อย่างไรก็ตามหากไม่มีเอกสารใดๆ เลยการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนนั้นก็จะถูกนับในระบบเป็นวัคซีนเข็มที่ 1 โดยต่อไปจะมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ปีละ 1 ครั้ง และสามารถฉีดพร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้” คุณณัฐพร ปาระมี จากกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แนะนำเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19

และเพราะปัจจุบันการโทรเข้ามาขอคำปรึกษาที่ ‘สายด่วน 1422’ ไม่ได้มีเพียงแค่โรคโควิด-19 เท่านั้น คุณณัฐพร จึงได้เพิ่มเติมข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคระบาดตามฤดูกาล โดยให้ความสำคัญกับการให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคอุจจาระร่วงที่พบได้ตลอดปี

ในขณะที่ คุณนิรันตา ไชยพาน จากสํานักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารต่างๆ ทั้งการขอเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน และเอกสารรับรองเพื่อออกนอกประเทศ พร้อมกับเน้นย้ำกับ อสต. ที่มาร่วมการอบรมว่า “กลุ่มเสี่ยง 608 ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ ยังคงเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในการติดเชื้อโรคโควิด-19”

Application ‘Lin Phone’ สำหรับสายด่วนแรงงานข้ามชาติ 1422 คืออีกหนึ่งเครื่องมือที่มีการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อลดอุปสรรคด้านการให้บริการที่เคยเกิดขึ้น

“Lin Phone เป็นการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของระบบให้บริการสายด่วน 1422 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความไม่เสถียรทั้งฝั่งของผู้รับบริการและผู้ให้บริการ โดยกรมควบคุมโรคได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ในการพัฒนาเครื่องมือขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการสายด่วน 1422 ให้ดียิ่งขึ้น” ดร.ชัชวาล หาญสกุลบันเทิง จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ อธิบาย

เรียกได้ว่ากว่าที่อาสาสมัครสาธารณสุขแรงงานต่างชาติ (อสต.) จะได้ขึ้นเวร ‘สายด่วน 1422’ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย พวกเขาจะต้องเรียนรู้ทั้งเกี่ยวกับโรคภัยต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่โรคโควิด-19 เท่านั้น ต้องได้รับการฝึกฝนทักษะในการสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้านสุขภาพ และยังต้องเข้าใจวิธีการในการใช้งานเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้การบริการตอบข้อซักถามเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับ ‘สายด่วน 1422’ โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 – 20.00 น. มีบริการทั้งภาษาไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมา เป็นอีกหนึ่งช่องทางเพื่อให้พี่น้องแรงงานข้ามชาติในประเทศไทยสามารถเข้าถึงสิทธิในการได้รับการบริการสาธารณสุข