
ส่งต่อโอกาสให้เด็กและเยาวชน
คุณโอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ และ คุณฟลุ้ค-ณธัช ศิริพงษ์ธร และ คุณรสลิน โกแวร์ พร้อมด้วยตัวแทนเยาวชนที่ได้รับทุนจาก ‘โครงการส่งน้องจบ ป.ตรี’ ร่วมถ่ายภาพท่ามกลางบรรยากาศแห่งความหวังและความสุข
‘โอห์ม-ฐิติวัฒน์’ และ ‘ฟลุ้ค-ณธัช’ และแฟนคลับมายบลู มอบทุน ‘ส่งน้องจบ ป.ตรี’
เพราะเด็กๆ ไม่ควรที่จะต้องหลุดออกไปจากระบบการศึกษาเพียงแค่ไม่มีต้นทุนในการเรียน
สองศิลปินหนุ่ม ‘คุณโอห์ม-ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ’ และ ‘คุณฟลุ้ค-ณธัช ศิริพงษ์ธร’ ฉลองครบรอบ 4 ปีในการทำงานคู่กันและอยู่ร่วมกับกลุ่มแฟนคลับ ‘มายบลู’ ด้วยการมอบทุนการศึกษาสนับสนุน โครงการส่งน้องจบ ป.ตรี โดย มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเยาวชนที่รอคอยโอกาสทางการศึกษาให้สามารถก้าวไปทำตามความฝันได้
จุดเริ่มต้นของโครงการดีๆ จากแฟนคลับคุณโอห์มและคุณฟลุ้คเกิดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปีของการสนับสนุนศิลปิน และด้วยเห็นความสำคัญของปัญหาเยาวชนในครอบครัวที่ขาดทุนทรัพย์ต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา รวมทั้งตระหนักว่าการศึกษาคือสิทธิพื้นฐานที่เด็กทุกคนควรได้รับเพื่อการเติบโตไปเป็นบุคคลที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนสังคมได้ และจากที่ศิลปินทั้งสองและกลุ่มแฟนคลับมายบลูได้เห็นการดำเนินงานของ มูลนิธิศุภนิมิตฯ ในการพัฒนาเด็ก โดยเฉพาะเด็กเปราะบางยากไร้ รวมถึงยังมี โครงการส่งน้องจบ ป.ตรี ซึ่งมีส่วนในการเติมโอกาสให้แก่เด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถพัฒนาและเพิ่มหนทางในการทำงานได้มากขึ้นในอนาคต
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้เปิดบ้านต้อนรับ คุณโอห์ม-ฐิติวัฒน์ และ คุณฟลุ้ค-ณธัช พร้อมด้วยกลุ่มแฟนคลับที่เดินทางมาจัดกิจกรรมส่งมอบทุนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ โครงการส่งน้องจบ ป.ตรี และทุนเพื่อส่งเยาวชน 4 คนภายใต้โครงการดังกล่าวให้ได้ศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปีต่อไปจนสำเร็จการศึกษา เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 582,000 บาท โดยมี คุณรสลิน โกแวร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานพันธกิจภาคสนามและระบบงานสนับสนุนองค์กร มูลนิธิศุภนิมิตฯ เป็นตัวแทนมูลนิธิศุภนิมิตฯ กล่าวเปิดงานและร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์ฝึกอบรมมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย
โดย คุณฟลุ้ค กล่าวว่า “การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งสำหรับเราเลย มันเป็นสิ่งที่สามารถนำไปต่อยอดในชีวิตได้ทั้งในเรื่องของสายอาชีพ การทำมาหากิน การใช้ชีวิตด้านต่างๆ ดังนั้นการทำโครงการนี้ช่วยให้คนหนึ่งหรือหลายคนได้เรียนจนจบปริญญาตรี มันเป็นพื้นฐานการศึกษาที่น้องๆ ทุกคนต้องได้รับเพื่อที่จะได้หางานทำในอนาคต ช่วยเหลือครอบครัว เลี้ยงชีพตัวเองได้”
คุณฟลุ้ค ยังได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุผลที่เขาเลือกสนับสนุนโครงการส่งน้องจบ ป.ตรี ว่า “ฟลุ้คก็ส่งตัวเองเรียนเหมือนกัน ซึ่งเราเข้าใจมากว่าการที่เราขาดทุนทรัพย์ในการศึกษามันเป็นยังไง ช่วงนั้นทำงานไปด้วยรู้สึกว่ามันก็ค่อนข้างหนักหนาสาหัสพอสมควร เลยขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทั้ง 4 คนที่กำลังเรียนอยู่ตอนนี้ครับว่าสู้ๆ มันอาจจะหนักและเหนื่อยแต่ว่าสุดท้ายในวันที่เรียนจบแล้วเราได้รับปริญญา มันจะเป็นวันที่คุณแล้วก็ครอบครัวจะภูมิใจที่สุดในชีวิตของคุณแล้วครับ”
ในขณะที่ คุณโอห์ม ร่วมแบ่งปันประสบการณ์เสริมว่า “อย่างที่ฟลุ้คบอกว่าการศึกษามันเป็นพื้นฐานของชีวิต ทำให้เป็นรากฐานสำคัญที่แข็งแรง โดยส่วนตัวผมเคยได้ทุนตอนช่วงจบ ม.3 แล้วเราก็รู้สึกว่าขอบคุณจริงๆ สำหรับทุนนี้ที่ทำให้เราได้แบ่งเบาภาระที่บ้าน ให้เราได้ใช้ความสามารถของเราออกมา ก็ดีใจที่มีโครงการดีๆ แบบนี้ให้ได้ส่งต่อ อยากจะฝากน้องๆ ฝากทุกคนที่ศึกษาอยู่และกำลังจะเข้าศึกษา ใช้ชีวิตวัยเรียนให้เต็มที่ครับผม เพราะว่าจบมาแล้วคุณจะกลับไปคิดถึงวัยเรียนว่าเราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ เป็นประสบการณ์ที่ดี”
“ผมก็เป็นแรงเล็กๆ ในการส่งกำลังใจไป ก็ขอฝากน้องๆ ว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็ขอให้ทำเต็มที่ ต่อให้เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง ไม่เป็นไรครับ บางอย่างถ้าเหนื่อยก็แค่พักแล้วก็คิดใหม่ทำใหม่ เป็นกำลังใจให้เพราะทุกคนเก่งอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรขอให้สู้ๆ แค่นั้นพอครับ ประสบผลสำเร็จแน่นอน รอเจอกันวันเรียนจบครับผม” คุณโอห์ม ได้ฝากกำลังใจไว้ให้เยาวชนทั้ง 4 ที่ได้รับทุนการศึกษาในครั้งนี้ด้วย
โดยก่อนสิ้นสุดกิจกรรม คุณฟลุ้ค ได้กล่าวทิ้งท้าย “ขอเชิญชวนทุกคนที่อยากช่วยเหลือคนอื่นๆ นะครับ มันเป็นโครงการที่ดีมากๆ เราก็รู้สึกเหมือนว่าจุดประกายอะไรบางอย่างเราอย่างหนึ่ง เพราะว่าอย่างที่ฟลุ้คบอกว่าฟลุ้คให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามากๆ แล้วการที่เราได้มีโอกาสมาในวันนี้เราก็ได้เห็นน้องๆ จริงว่าเขาดีใจแค่ไหนถึงแม้ว่าเราจะเป็นส่วนน้อยที่ได้ช่วยให้น้องๆ ได้เรียนจบปริญญาตรี การศึกษามันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เหมือนที่พี่โอห์มบอกว่านอกจากมันจะช่วยขับเคลื่อนสังคมแล้วยังช่วยขับเคลื่อนประเทศได้อีกด้วย และมันยังเป็นเครื่องมือสำหรับน้องๆ ที่สามารถไปต่อยอดของเขาอีกได้ ซึ่งอนาคตถ้ามีโอกาสเรากลับมาทำโครงการดีๆ แบบนี้แน่นอนครับ”