
ครอบครัวครูเมย์
ความยากจนทำให้สมาชิก 8 คนของครอบครัวต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก แต่ทุกคนก็ไม่เคยทิ้งกัน สำหรับครูเมย์ ครอบครัวคือสายลมใต้ปีกที่ทำให้เธอมีกำลังใจในการเรียนจนประสบความสำเร็จในทุกวันนี้
อดีตเด็กในความอุปการะ มูลนิธิศุภนิมิตฯ จ.เชียงราย
“โครงการอุปการะเด็ก มูลนิธิศุภนิมิตฯ ช่วยให้หนูมีโอกาสได้เรียนหนังสือ ทำให้หนูทำตามความฝันที่อยากเป็นครูได้สำเร็จ และสำคัญที่สุดทุกความช่วยเหลือจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ ทำให้หนูและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พ่อแม่มีความภูมิใจ และทุกคนในครอบครัวมีความสุข” ครูเมย์ ฉายภาพความสุขวันนี้ของครอบครัวเธอด้วยความภูมิใจ แต่กว่าจะเดินมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย
นางสาวจรียา แซ่ลี หรือ ครูเมย์ อายุ 25 ปี เติบโตมาในครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกครอบครัวอยู่อาศัยด้วยกันถึง 8 คน ในชุมชนชนบทของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ครอบครัวของเธอมีอาชีพเกษตรกรรม ทำสวน มีรายได้ไม่แน่นอน
ความช่วยเหลือจากผู้อุปการะ ที่สนับสนุนผ่าน โครงการอุปการะเด็ก ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ เป็นแสงสว่างส่องทางให้ ครูเมย์ ในวัยเด็กที่ไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงอนาคตด้านการศึกษา สามารถก้าวต่อตามความฝัน รวมถึงยังเป็นแสงส่องทางบรรเทาความยากลำบากของครอบครัวที่มีสมาชิกมากถึง 8 คนของครูเมย์ได้
“หนูได้รับความช่วยเหลือจาก ผู้อุปการะ ตั้งแต่หนูเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ท่านอุปการะหนูต่อเนื่องจนหนูเรียนจบปริญญาตรีเลยค่ะ หนูได้รับความช่วยเหลือทั้งอุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน ปัจจัยการศึกษา และปัจจัยจำเป็นอื่นๆ มาโดยตลอด ความช่วยเหลือเหล่านั้นเป็นส่วนที่สำคัญมากสำหรับหนู สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้มากเลยค่ะ เพราะความช่วยเหลือทุกอย่างจากท่านผู้อุปการะ เปรียบเหมือนแสงสว่างส่องทางฝัน ให้หนูสามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้ค่ะ”
แต่ทางเดินสู่ฝัน ก้าวสำคัญที่จะไปสู่อาชีพครูตามที่ตั้งใจไว้ในวัยเด็กของ ครูเมย์ ต้องแลกมาด้วยความเสียสละของครอบครัว “เมื่อหนูเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ด้วยความที่ครอบครัวมีพี่น้องหลายคน การเรียนระดับปริญญาตรีต้องมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น มันเกินกำลังของพ่อแม่ที่จะส่งเสียลูกๆ ได้ทุกคนค่ะ น้องชายของหนูต้องเสียสละเปลี่ยนแผนไม่เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย เขาตั้งใจออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานที่สวน เพื่อให้หนูและน้องสาวอีก 2 คนได้เรียน การเสียสละของเขาทำให้ตอนนี้น้องสาวของเมย์จบปริญญาตรีแล้ว 1 คน และยังมีอีกคนกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ค่ะ”
ทั้งการสนับสนุนจากผู้อุปการะ การเสียสละของน้องชาย กำลังใจที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อของพ่อแม่ ทำให้ ครูเมย์ ใช้โอกาสที่ได้รับนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ จนที่สุดเธอสามารถคว้าปริญญาเกียรตินิยมอันดับ 1 จากคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
ปัจจุบัน ครูเมย์ ได้กลับมาทำงานเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เป็นโรงเรียนที่เธอเคยศึกษาเล่าเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น พร้อมกับความตั้งใจที่จะทำให้เด็กๆ ในชุมชนห่างไกลแห่งนี้ มีความหวัง มีความรู้ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ และมากกว่านั้นเธอต้องการให้ชุมชนที่เติบโตมาพัฒนาดีขึ้น
ในขณะเดียวกัน ครูเมย์ ก็ไม่ลืมที่จะช่วยจุนเจือครอบครัว เธอแบ่งรายได้จากอาชีพครูสำหรับใช้ดำรงชีพ แบ่งส่วนหนึ่งไปจุนเจือพ่อแม่ให้เหนื่อยน้อยลง และยังแบ่งอีกส่วนหนึ่งสำหรับส่งเสียให้น้องๆ ได้ใช้ในการเล่าเรียน
“หนูตั้งใจจะเป็นครูที่ดี เป็นแบบอย่างให้นักเรียนที่หนูสอน หนูจะสอนให้เขามีความรู้ สอนให้เขาเป็นคนดี สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคมได้อย่างมีความสุข และหนูจะใช้ชีวิตของหนูเป็นแรงบันดาลใจเด็กๆ และเยาวชนในชุมชน ให้เขาเห็นความสำคัญของการศึกษา ให้เขามีความพยายาม และตั้งใจที่จะศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น เพราะการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีชีวิตที่มีคุณภาพที่ดีของพวกเขาในอนาคตต่อไป ชีวิตหนูจะไม่สามารถก้าวเดินมาถึงวันนี้เลย ถ้าไม่มีแสงสว่างช่วยส่องนำทางจากผู้อุปการะค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ” ครูเมย์ กล่าวทิ้งท้าย