
‘ฟาง’ กับพี่น้องร่วมค่ายพัฒนาทักษะชีวิตเยาวชน
“ฟางได้เข้าร่วมกิจกรรมอบรมพัฒนาเยาวชนที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ จัดขึ้น สร้างแรงบันดาลใจให้กับฟางอย่างมาก ฟางตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นวิทยากรกระบวนการเหมือนพี่ๆ”
เรื่องราวความกล้าของผู้หญิงที่มุ่งตามฝัน เพื่อชีวิตผู้หญิงและเด็กทุกคนที่ดีกว่า
‘ตั้งครรภ์ในวัยเรียน’ ปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อทั้งโอกาสในการพัฒนาของเด็กหญิงวัยรุ่น และส่งผลต่อเนื่องไปถึงคุณภาพชีวิตของเด็กที่คลอดจากแม่วัยใสที่ท้องไม่พร้อม จากสถิติสาธารณสุขล่าสุดพบว่าอัตราการคลอดในกลุ่มอายุ 15-19 ปี ในปี 2565 อยู่ที่ 25 คนต่อสัดส่วนประชากร 1,000 คน ซึ่งยังเป็นอัตราที่สูงมาก
‘ฟาง’ หรือ น.ส.มัญชุตา คือหนึ่งในเด็กหญิงที่เคยสนุกกับชีวิตและความรักในช่วงวัยรุ่นจนตั้งครรภ์และคลอดตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี
“ฟางมองว่ามันเป็นช่วงจังหวะชีวิตมากกว่าที่เราเจอสถานการณ์แบบนี้ เมื่อมันเกิดขึ้นมันอยู่ที่เราจะเลือกเส้นทางเดินชีวิตแบบไหน ถ้าวันนั้นฟางเลือกที่จะมองว่าเราทำไม่ได้ล่ะ เรามีลูกเราอาจจะต้องไปอยู่ขายของตามตลาด เพื่อหารายได้คอยเลี้ยงลูก หรืออาจจะต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อหารายได้มาเลี้ยงลูก แต่ฟางเลือกเส้นทางที่ฟางมองว่าสามารถก้าวต่อไป ในจังหวะที่ฟางก้าวพลาด และมูลนิธิศุภนิมิตฯ ก็ไม่เคยหยุดให้ความช่วยเหลือ”
ฟาง เกิดมาในครอบครัวที่ไม่มีความพร้อมมากนัก คุณแม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูก 3 คน มีรายได้จากการขายผลไม้ในโรงเรียน ฟางต้องตื่นเช้าเพื่อออกจากบ้านไปโรงเรียนพร้อมแม่ในทุกวัน บางวันแม่ขายของได้เยอะ ฟางก็พอได้ค่าขนมซึ่งไม่บ่อยครั้งเพราะแม่ต้องเก็บไว้ซื้อผลไม้เพื่อขายในวันถัดไป ฟางได้รับความช่วยเหลือจาก มูลนิธิศุภนิมิตฯ ผ่าน “โครงการอุปการะเด็ก” ทั้งอุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน รวมไปถึงปัจจัยต่างๆ ที่จำเป็นในการใช้ชีวิต ส่วนแม่ของฟางก็ได้รับการสนับสนุนพัฒนาด้านอาชีพ เพิ่มช่องทางการหารายได้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บ การทำการบูรดับกลิ่น รวมถึงการสนับสนุนรถเข็นและอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ สำหรับการขายลูกชิ้น เป็นอาชีพเสริมนอกจากการขายผลไม้ในโรงเรียน
แต่การสนับสนุนจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่สำคัญที่สุด และจุดประกายความฝันให้กับฟางคือ การได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมอบรมพัฒนาเยาวชน
“ฟางยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้เป็นอย่างดีตอนอายุ 12 ปี ฟางได้เข้าร่วมกิจกรรมอบรมพัฒนาเยาวชนที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ จัดขึ้น มันเป็นความประทับใจที่ไม่เคยลืม ทั้งสนุก มีสาระ และไม่น่าเบื่อ การได้เข้าร่วมการอบรมฯ ในครั้งนั้นสร้างแรงบันดาลใจให้กับฟางอย่างมาก ฟางถึงขั้นตั้งเป้าหมายกับตัวเองเลยว่า โตขึ้นจะเป็นวิทยากรนำกระบวนการเหมือนพี่ๆ ให้ได้” ฟาง เล่าความหวังครั้งยังเด็กให้ฟังพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งหลังจากนั้นเด็กหญิงฟางไม่เคยปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาเยาวชน และกิจกรรมต่างๆ ที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ จัดขึ้น แม้หลังจากที่ฟางถูกยกเลิกการอุปการะในปี 2005 ฟางก็ยังได้รับโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และเริ่มต้นสู่บทบาทแกนนำเยาวชน
กระทั่ง ฟาง อายุ 18 ปี เด็กยากไร้ที่เริ่มมีรายได้จากการทำงานนอกเวลาเรียน หลงเพลิดเพลินกับชีวิตในช่วงวัยรุ่น กิน เที่ยว สนุกกับเพื่อน มีความรัก เผลอวางความรู้ทักษะชีวิตเยาวชนที่เคยได้อบรม มองเห็นแต่โลกแห่งความรัก ฟางตั้งครรภ์และมีลูกคนแรก
เหตุการณ์นี้ทำให้โอกาสบนเส้นทางการศึกษาในโรงเรียนของเธอสิ้นสุดลง เธอต้องหันเหตัวเองมาศึกษาต่อในระบบการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) แม้จะมีอุปสรรคมากมายที่เธอต้องแบกรับในวันนั้นจนทำให้เธอกลัว แต่เธอก็ไม่เคยหยุดฝัน เธอเปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้า กล้าที่จะยอมรับและแก้ไข กล้าที่จะลุกขึ้นและเดินต่อไป
แม้ข้อผิดพลาดจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเด็กและเยาวชน แต่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ไม่เคยละเลยที่จะช่วยเหลือ เป็นกำลังใจ และให้โอกาสเธอในการพัฒนาตัวเอง ประกอบกับฟางเองก็ยังไม่ละทิ้งความฝันที่อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น
เมื่อเธอได้ข่าวจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ ว่าจะมีการดำเนิน “โครงการพัฒนาศักยผู้นำเยาวชนศุภนิมิต” ว่าเธอสนใจเข้าร่วมโครงการไหม แน่นอนเธอไม่รอช้าที่จะคว้าโอกาสครั้งสำคัญนี้ “ฟางตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฯ โดยไม่คิดเลยนะ ในโครงการฯ มีกิจกรรมหลายอย่าง เช่น การฝึกการเป็นวิทยากร ทักษะการพูด การนำกิจกรรมสันทนาการ และการพัฒนาบุคลิกภาพ ซึ่งจะมีวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญ มาอบรมให้ความรู้กับพวกเรา ประสบการณ์และทักษะที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการในวันนั้น ทำให้เด็กหญิงฟาง เป็นโค้ชฟางในวันนี้ ฟางก็คือผลงานหนึ่งที่พี่ๆยอมเสียสละตนเอง หลายครั้งต้องยอมเสียสละเวลาของครอบครัวด้วยซ้ำ ที่เอามาให้เด็กคนหนึ่งที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องของพี่ๆ เลยด้วยซ้ำ มันทำให้ฟางได้ก้าวขึ้นมา มายืนอยู่ได้ ณ ตอนนี้ ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ ค่ะ”
พร้อมๆ กับการทำหน้าที่แม่ ฟางพยายามเดินตามฝัน พร้อมกับนำบทเรียนที่เคยพลาดพลั้งตอนเป็นวัยรุ่นมาส่งต่อเป็นบทเรียนชีวิตให้กับรุ่นน้องเยาวชน “เริ่มเข้ามาเป็นทีมงานในการจัดกิจกรรมพัฒนาเยาวชนกับมูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมถึงการทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในโครงการอนามัยเจริญพันธุ์สำหรับวัยรุ่น นำความพลาดพลั้งในวัยรุ่นมาเป็นบทเรียนให้กับเยาวชนยากไร้ทั่วประเทศ โอกาสที่ฟางได้รับจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ ทำให้ฟางซึ่งจบการศึกษาแค่มัธยม 6 แต่มีทุนประสบการณ์ไปแข่งขันกับพี่ๆ ที่จบปริญญาตรี จนที่สุดฟางได้บรรจุเป็นอาสาสมัครพัฒนาชุมชน สำนักงานเขตห้วยขวาง และเป็นบันไดที่ทำให้ฟางสามารถก้าวสู่อาชีพการเป็นวิทยากรกระบวนการได้อย่างทุกวันนี้ค่ะ”
วันนี้ชีวิตของฟางเปลี่ยนไป เธอได้เป็นทีมวิทยากรนำกระบวนการ Team building ตามที่เธอตั้งใจไว้ แต่เธอยังไม่หยุดในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง “ตอนนี้ฟางได้เป็นทีมวิทยากร เป็นผู้ช่วยวิทยากรในนำกระบวนการตามที่ฝันไว้แล้ว กว่าจะเดินมาถึงวันนี้มันไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะการเป็นผู้หญิงที่จะทำหน้าที่เป็นวิทยากรนำกระบวนการ Team building ซึ่งส่วนมากจะมีแต่ผู้ชายเพราะเขามองว่า เสียงพูดของผู้หญิงในการนำกิจกรรมไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ แต่ฟางมีความเชื่อว่าฟางทำได้ และฟางก็พยายามทำจนได้ วันนี้ฟางอาจจะเป็นผู้ช่วยวิทยากร เป็นทีมในการทำงานแต่วันหนึ่งฟางจะพัฒนาตัวเอง และจะก้าวขึ้นมาเป็นวิทยากรหลัก”
“ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเป็นวิทยากรกับเยาวชน เรื่องสุขภาวะทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ ฟางจะนำประสบการณ์ความผิดพลาดของตัวเองในวัยรุ่น มาเป็นบทเรียน และเป็นกำลังให้กับน้องๆ เยาวชน เพื่อให้เขามีทักษะและกำลังใจในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ฟางมองว่ามันเป็นช่วงจังหวะชีวิตมากกว่าที่เราเจอสถานการณ์แบบนี้ เมื่อมันเกิดขึ้นมันอยู่ที่เราจะเลือกเส้นทางเดินชีวิตแบบไหน ถ้าวันนั้นฟางเลือกที่จะมองว่าเราทำไม่ได้ล่ะ เรามีลูกเราอาจจะต้องไปอยู่ขายของตามตลาด เพื่อหารายได้คอยเลี้ยงลูก หรืออาจจะต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อหารายได้มาเลี้ยงลูก แต่ฟางเลือกเส้นทางที่ฟางมองว่าสามารถก้าวต่อไป และสามารถดูแลลูกของฟางได้ เป็นงานที่เราสามารถส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่นๆ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน แม้กระทั่งผู้ใหญ่ได้”