‘ฟาง-หทัยรัตน์’ จากเคยเป็นผู้รับ จึงให้ด้วยเต็มใจ

เป้าหมายชีวิตคือการมองเห็นภาพตัวเองในอนาคต สิ่งนี้เป็นเหมือนเข็มทิศที่จะนำทางชีวิตของเราให้เดินไปตามเส้นทางที่ถูกต้อง เป้าหมายที่แตกต่างอาจด้วยเหตุผลและแรงบันดาลใจที่ต่างกัน คนอยากเป็นครู อาจจะเพราะตอนเด็กประทับใจครูคนหนึ่งที่ใจดี และคอยช่วยเหลือเวลามีปัญหาการเรียน คนอยากเป็นหมอ เพราะอาจจะมีคนในครอบครัวเจ็บป่วย จึงคิดว่าหากมีความรู้ก็จะสามารถรักษาคนที่รักได้ บ้างอยากเป็นนักธุรกิจ เพราะอยากมีบ้าน รถ และฐานะที่ร่ำรวย

ฟาง หรือ หทัยรัตน์ จารนัย คือหนึ่งในเด็กสาวที่มีเป้าหมายของชีวิต ฟางอยากจะเป็นนักพัฒนาชุมชน โดยมีเหตุผลจากความประทับใจการทำงานของพี่ๆ เจ้าหน้าที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือเธอและครอบครัว และทำงานพัฒนานำความอยู่ดีมีสุขมาสู่เด็กเปราะบางยากไร้ ครอบครัว และทุกคนในชุมชน

ในวัย 8 ขวบ นับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากของ ฟาง พ่อแม่แยกทางกัน ฟางต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยมีแม่คอยดูแลตามลำพัง แม่ของฟางมีอาชีพเป็นแม่ค้าไก่ทอด มีรายได้วันละประมาณ 300 บาท ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่ครอบครัวต้องแบกรับภาระอยู่ในเวลานั้น

“ตอนนั้นลำบากมากค่ะ แม่ต้องดูแลน้องตามลำพัง เพียงอาชีพขายไก่ทอดของแม่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในครัวเรือนค่ะ แม่ต้องปลูกผัก เลี้ยงไก่ เพื่อเป็นแหล่งอาหารและรายได้เสริม และต้องพยายามเก็บไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ฟาง” แม่ของฟาง เล่าความลำบากในอดีต

ในเวลาที่ยากลำบากยังมีโอกาสที่ดีเข้ามาในชีวิต เมื่อมูลนิธิศุภนิมิตฯ ซึ่งเป็นองค์กรคริสเตียนเพื่อการพัฒนาและสาธารณกุศลมุ่งช่วยเหลือเด็กเปราะบางยากไร้ ได้เข้ามาดำเนินโครงการพัฒนาฯ ในพื้นที่ชุมชนอ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ ด้วยฐานะครอบครัวที่ยากลำบาก ฟาง ได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ ผ่าน โครงการอุปการะเด็ก ทำให้เธอและคุณแม่ได้รับความช่วยเหลือต่างๆ ทั้งการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน และปัจจัยจำเป็นต่างๆ สำหรับการดำเนินชีวิต แม่ของฟางยังได้รับการสนับสนุนอาชีพเพื่อเป็นรายได้เสริม ทั้งการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ และการเลี้ยงปลาดุก ทำให้ครอบครัวของเธอมีรายได้จากการจำหน่ายไข่ไก่ และปลาดุก เพิ่มขึ้นจากรายได้ปกติสัปดาห์ละ 200 – 300 บาท ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวของเธอได้มาก

ฟางได้รับความช่วยเหลือมาตลอด ปัจจุบันเธอจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และเธอยังได้เริ่มต้นการทำงานกับอาชีพในฝันด้วยบทบาทเจ้าหน้าที่เอื้อกระบวนการพัฒนาชุมชน มูลนิธิศุภนิมิตฯ รับผิดชอบดูแลงานพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กในชุมชนอ่าวลึก บ้านเกิดของเธอ

“หนูดีใจมากค่ะที่ได้รับโอกาสด้านการศึกษาที่ดี จนทำให้หนูสามารถเรียนจบระดับปริญญาตรี มีงานทำมีรายได้ ตอนนี้หนูสามารถดูแลตนเองและแม่ได้ หนูรู้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นอย่างที่หนูเคยได้รับโอกาสรับความช่วยเหลือจนประสบความสำเร็จ หนูได้เรียนรู้การให้และการช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งหนูตั้งใจไว้ว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ขอบคุณผู้อุปการะมากค่ะที่ช่วยเหลือหนูจนทำให้หนูประสบความสำเร็จด้านการเรียน และได้เริ่มต้นอาชีพตามที่ฝันในวันนี้” ฟาง กล่าว

แม้วันนี้ฟางจะยุติการทำงานร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตฯ ในบทบาทเจ้าหน้าที่ผู้เอื้อกระบวนการพัฒนาชุมชน เพื่อออกเดินทางตามฝันอีกครั้ง บนเส้นทางเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเด็ก พัฒนาชุมชน แต่ทุกเรื่องราวในชีวิตที่มีประสบการณ์ร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังเป็นภาพสวยงามที่ติดตราตรึงในใจของฟางตลอดไป

ร่วมเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กยากไร้ผ่านโครงการของมูลนิธิศุภนิมิตฯ