
นายณัฐพล เยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2566
“ความไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำ ไมกล้าแสดงออก เป็นสิ่งที่ท้าทายกับผมมาก หลังจากที่เข้ามาเป็นเยาวชนศุภนิมิตฯ ก็ได้ฝึกเป็นผู้นำและมีพัฒนาการที่ดีขึ้น”
อดีตเด็กในความอุปการะ จากผู้ได้รับความช่วยเหลือสู่บทบาทการส่งต่อพัฒนาชีวิตเยาวชน
“ความไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำ ไม่กล้าแสดงออก เป็นสิ่งที่ท้าทายกับผมมาก การได้รับความช่วยเหลือจากผู้อุปการะ ทำให้ผมได้รับโอกาสต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะด้านการศึกษา และการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ที่สำคัญที่สุดคือการที่ผมได้เข้ามาเป็นเยาวชนศุภนิมิตฯ ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาเด็ก และเยาวชน พัฒนาทักษะอาชีพ ได้ฝึกเป็นผู้นำและมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ผมมีความสุขในการได้ทำกิจกรรม ก็เป็นโชคดีที่ครอบครัวเข้าใจและสนับสนุนครับ” ณัฐพล หรือ เต้ย อายุ 25 ปี เจ้าของรางวัล เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2566 ด้านการพัฒนาสังคมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน จากกรมกิจกรรมเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นักศึกษารางวัลพระราชทาน ประจำปี 2566 จากกระทรวงศึกษาธิการ
เต้ย เกิดในครอบครัวที่ไม่ได้สะดวกสบายมากนัก พ่อและแม่ของเต้ยทำงานรับจ้างในสวนในไร่ แล้วแต่ว่าจะมีใครจ้าง รายได้แทบไม่พอสำหรับใช้จ่ายในครอบครัว ในวัยเด็กเต้ยเคยคิดว่าตนเองคงไม่สามารถเรียนหนังสือได้สูงแน่ๆ แต่ด้วยความเมตตาจากผู้อุปการะที่ส่งถึงเต้ยผ่าน โครงการอุปการะเด็ก มูลนิธิศุภนิมิตฯ ซึ่งขณะนั้นเต้ยยังเรียนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สร้างโอกาสทางด้านการศึกษาให้กับเต้ย และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่ของเต้ยลงไปได้มากเลยทีเดียว
ในวัยเด็ก เด็กชายเต้ย เป็นเด็กขี้อาย ไม่กล้าพูด ไม่กล้าคุย แต่เมื่อเขาได้เริ่มเรียนในระดับชั้นมัธยม เต้ยได้เข้าร่วมโครงการต่างๆ ที่โครงการอุปการะเด็กของมูลนิธิศุภนิมิตฯ จัดขึ้น เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชน
เมื่อเติบโตสู่ช่วงวัยรุ่น เต้ย ได้ก้าวเดินเข้าสู่เส้นทางการพัฒนาศักยภาพเยาวชน ภายใต้การดำเนินงาน โครงการพัฒนาชีวิตเยาวชน Youth Development (YOUTH+) มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาเยาวชนในช่วงอายุ 13-18 ปี ให้มีต้นทุนชีวิตและทักษะชีวิต เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ และพัฒนาเยาวชนให้มีความพร้อมสำหรับโอกาสทางเศรษฐกิจ และทักษะวิชาชีพ รวมทั้งสร้างเยาวชนให้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายต่อความอยู่ดีมีสุข เต้ยได้รับโอกาสในการพัฒนาตัวเองอย่างรอบด้าน และได้รับการเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองจนก้าวสู่การเป็นผู้นำเยาวชน
“ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตครับ ตอนแรกก็ไม่กล้าเล่น ไม่กล้าแสดงออกครับ แต่พี่ๆ ให้ความเป็นกันเอง จนผมไม่กลัวและเริ่มที่จะกล้าทำอะไรสนุกๆ ตามที่พี่เขาสอน” เต้ย เล่าความประทับใจการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตในครั้งแรก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเข้าร่วมกิจกรรมครั้งต่อๆ มา ซึ่งทำให้เข้าได้รับการพัฒนาทักษะชีวิต จนได้ก้าวขึ้นมาเป็นแกนนำเยาวชนศุภนิมิตเชียรใหญ่
ด้วยความที่เต้ยมีความเป็นผู้นำ และมักไม่ปฏิเสธโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาเยาวชนทั้งในโรงเรียนและชุมชน ไม่ว่าจะในบทบาทผู้เข้าร่วม หรือผู้นำกระบวนการ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เต้ยจะได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆ ให้เป็นประธานคณะกรรมการสภานักเรียนโรงเรียนเชียรใหญ่ และเขายังได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนตำบลเขาพระบาท ตามด้วยตำแหน่ง ประธานสภาเด็กและเยาวชนอำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช อีกด้วย
“ทุกกิจกรรมที่มีโอกาสทำ ผมจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อเพิ่มประสบการณ์ให้ตัวเองครับ ซึ่งผมจะเข้าร่วมกิจกรรมที่พี่ๆ จัดขึ้นทุกครั้งครับ ทำให้ผมกล้าที่จะทำกิจกรรม กล้าตอบคำถาม กล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น นอกจากนั้นผมยังได้เข้าร่วมเป็นกลุ่มแกนนำเยาวชน ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชน ได้ไปดูงาน ได้เข้าร่วมประชุมกลุ่มเยาวชน ได้ทำกิจกรรมอาสาพัฒนาทั้งในโรงเรียนและที่วัด และในชุมชนด้วย เวลามีกิจกรรมให้น้องๆ ผมก็จะช่วยเป็นผู้นำเกมสันทนาการ และกลายเป็นว่าผมมีความสุขกับกิจกรรมต่างๆ ซึ่งผมก็ไม่ทิ้งการเรียนนะครับ”
ในปี 2020 เป็นอีกครั้งที่ เต้ย และเพื่อนๆ แกนนำเยาวชนศุภนิมิตเชียรใหญ่ ได้ทำสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ เมื่อพวกเขาได้ริเริ่มดำเนิน โครงการรณรงค์ป้องกันไฟป่าและลดปัญหาหมอกควัน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเกิดจากการตระหนักถึงผลกระทบจากภัยพิบัติไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ส่งผลกระทบด้านสุขภาพต่อเด็กและชาวบ้าน หลายคนป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ และหลายครั้งที่ไฟป่าได้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและที่ทำกิน
การอบรมมีทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุและการป้องกันไฟป่าทั้งกับเยาวชนและชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกับหน่วยงานในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และยังมีวัตถุประสงค์ในการสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังและป้องกันไฟป่า ซึ่งโครงการนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่ทำให้เต้ยได้ตระหนักถึงพลังของเยาวชนในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
“ผลตอบรับจากผู้เข้าร่วมโครงการดีมาก ทุกคนบอกว่าดีใจที่ในที่สุดก็มีคนตั้งใจลงมือแก้ปัญหา เพราะที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานเข้ามาให้ความรู้เลย ส่วนตัวผมเองมองว่าอย่างน้อยทุกคนก็มีวิธีป้องกันตัวเองจากหมอกควัน ประกอบกับสมัยนี้พลังเยาวชนยิ่งใหญ่มาก สามารถเป็นกระบอกเสียงให้กับประเทศได้ และหากเยาวชนมีภูมิคุ้มกันที่ดี ได้เริ่มต้นทำเพื่อสังคม ในอนาคตเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ก็สามารถที่จะช่วยพัฒนาสังคมได้อย่างแน่นอน”
“ผมได้ความรู้และประสบการณ์อย่างมาก เพราะกระบวนการต่างๆ ที่พวกเราทำกันในทุกช่วงการประชุม จะมีความหมายหมดเลย โดยเฉพาะได้ระดมความคิดเห็นกับเพื่อนๆ ที่แม้จะมาจากต่างที่กัน แต่เรามีอุดมการณ์เดียวกัน ทำให้สามารถพูดคุยและคิดไปในทิศทางเดียวกัน และอีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือประเด็นปัญหาทั้งหมดที่เราได้คิดและทำร่วมกันตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย สามารถนำมาสะท้อนให้กับผู้ใหญ่ได้เห็นว่าพวกเราตั้งใจทำกันแค่ไหน และสามารถทำได้ถ้าผู้ใหญ่จากหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ให้การสนับสนุน ซึ่งผมอยากจะบอกกับผู้ใหญ่ว่า กระบวนการที่สะท้อนจากเยาวชนสามารถนำไปใช้กับองค์กรหรือให้ความรู้แก่เยาวชนให้มีความเข้าใจเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์มากขึ้น”
เต้ย-ณัฐพล ได้เป็นหนึ่งในเยาวชนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนในประเด็นเกี่ยวกับ “การยุติการค้ามนุษย์ และขจัดความรุนแรงในสังคมหลากหลายรูปแบบ” ในงาน THAILAND COMMIT NATIONAL YOUTH FORUM 2020 จัดโดย โครงการความร่วมมือเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ประจำสหประชาชาติ (UN-ACT) ภายใต้ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) โครงการต่อต้านการค้ามนุษย์ในประเทศไทย (USAID Thailand CTIP) ดำเนินงานโดย Winrock International เพื่อเรียนรู้วิธีการปฏิบัติงาน ความท้าทาย และเป้าหมายในการทำงาน รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลจากเยาวชนที่เข้าร่วมประชุมด้วยกันเพื่อทบทวนปัญหา และนำมาพัฒนาเป็นปัญหาร่วมที่เจอ เพื่อจัดทำร่างต้นแบบข้อเสนอแนะ และเจตนารมณ์ต่อสถานการณ์การค้ามนุษย์แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภายใต้การณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กซึ่งมูลนิธิศุภนิมิตฯ และ World Vision ทั่วโลกได้จัดขึ้น เต้ย ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับบทบาทผู้นำเยาวชน เต้ยนำทุกประสบการณ์ที่ได้รับมาร่วมระดมสมองกับเพื่อนผู้นำเยาวชน จนตกผลึกเป็นข้อเสนอแนะที่ได้นำเสนอต่อตัวแทนภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 กระทรวง
ปัจจุบัน ณัฐพล หรือ เต้ย จบการศึกษาคณะครุศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ปีเดียวกับที่เขาได้ก้าวเดินมาถึงอีกจุดหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจในชีวิต ในฐานะเยาวชนดีเด่นแห่งชาติและนักศึกษาทุนพระราชทาน ประจำปี 2566
“มูลนิธิศุภนิมิตฯ มีส่วนสนับสนุนและให้โอกาสเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ได้มีโอกาสสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดโครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน รวมไปถึงการสนับสนุนทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียนต่างๆ การส่งเสริมอาชีพ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มีการปฏิสัมพันธ์กันในครอบครัวเพื่อให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ได้มีโอกาสแสดงความสามารถ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก เติบโตไปเป็นเยาวชนที่ดีของชาติต่อไปครับ”