เสียงสะท้อนจากเจ้าหน้าที่ศุภนิมิต: แม้ต้องอพยพ แต่ยังคงยืนหยัดทำหน้าที่ปกป้องและดูแลเด็กในศูนย์อพยพ ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา

“แม้ตัวเองต้องอพยพเช่นเดียวกับทุกคน แต่ในฐานะเจ้าหน้าที่ศุภนิมิตฯ เรายังคงยืนหยัดเพื่อดูแลเด็ก ๆ เพราะเชื่อว่าหน้าที่สำคัญคือการทำให้เด็กทุกคนปลอดภัย” นันท์นภัส สนวนรัมย์, ผู้จัดการโครงการจังหวัดสระแก้ว มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย

เมื่อสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาบีบให้หลายครอบครัวต้องอพยพออกจากบ้านอย่างเร่งด่วน รวมถึงเจ้าหน้าที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่อยู่ในพื้นที่ ก็ต้องย้ายไปยังศูนย์พักพิงเช่นเดียวกัน ท่ามกลางความหวาดกลัวและความไม่แน่นอน เด็ก ๆ ในศูนย์อพยพต้องเผชิญกับความเครียดและความกังวล มูลนิธิศุภนิมิตฯ จึงร่วมกับพันธมิตรจัดตั้ง Child-Friendly Space (CFS) หรือ “ศูนย์เพื่อนเด็ก” เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย เยียวยาจิตใจ และคืนรอยยิ้มให้เด็ก ๆ อีกครั้ง

พื้นที่แห่งนี้ไม่ใช่แค่มุมเล่นสนุก แต่คือ “พื้นที่แห่งความหวัง” ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของเด็กในสถานการณ์ฉุกเฉิน เด็กเล็กได้เพลิดเพลินกับการระบายสี ปั้นแป้งโด ต่อบล็อกตัวเลข ส่วนเด็กโตสนุกกับกิจกรรมสันทนาการ ร้อง เล่น เต้นตามเพลง และเกมที่ช่วยคลายความเครียด โดยมีครูและแกนนำเยาวชนร่วมสนับสนุน ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองก็มีส่วนร่วมในกิจกรรม เช่น ปั้นดินน้ำมันและต่อบล็อกอักษร เพื่อสร้างสายสัมพันธ์และความอุ่นใจว่าลูกหลานอยู่ในที่ปลอดภัย มีทีมงานที่ผ่านการอบรมด้านการปกป้องเด็กคอยดูแลตลอดเวลา

แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ชุมชนตั้งหลักไม่ทัน แต่ศูนย์เพื่อนเด็ก ทำหน้าที่เป็นทั้ง ‘เกราะป้องกัน’ และ ‘พื้นที่เยียวยาใจ’ ที่ช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกปกติในชีวิตประจำวัน พร้อมส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และลดความเสี่ยงจากการละเมิดหรือพลัดพรากจากครอบครัว เสียงสะท้อนจากเด็ก ๆ และผู้ปกครองเต็มไปด้วยความสุข เด็กคนหนึ่งบอกว่า “สนุกมาก ๆ เลยครับ พรุ่งนี้จะมาอีกไหม ถ้ามา ผมจะมานั่งรอครับ” ขณะที่ผู้ปกครองหลายคนดีใจที่เห็นลูกหลานคลายความเครียด และได้รับของเล่นที่ไม่เคยมีในศูนย์

การดำเนินงานครั้งนี้เผชิญข้อจำกัด ทั้งบุคลากรไม่เพียงพอ สถานที่ไม่เอื้ออำนวย และเวลาที่จำกัด แต่ความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทำให้ศูนย์เพื่อนเด็กแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่แห่งความหวังที่ช่วยให้เด็กและครอบครัวผ่านช่วงเวลายากลำบากไปด้วยกัน

คุณนันท์นภัส ซึ่งเป็นทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ และผู้อพยพ เผยความรู้สึกว่า
“แม้ตัวเองต้องอพยพเช่นเดียวกับทุกคน แต่ในฐานะเจ้าหน้าที่ศุภนิมิตฯ เรายังคงยืนหยัดเพื่อดูแลเด็ก ๆ เพราะเชื่อว่าหน้าที่สำคัญคือการทำให้เด็กทุกคนปลอดภัย เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มของเด็ก ๆ ในศูนย์เพื่อนเด็ก ก็ทำให้เรามีความหวัง และอยากเห็นความสงบกลับคืนมาโดยเร็วค่ะ”

แม้สถานการณ์จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ความร่วมมือและความทุ่มเทของทุกฝ่ายทำให้เราสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กได้สำเร็จ ศูนย์เพื่อนเด็กจึงไม่ใช่เพียงกิจกรรมชั่วคราว แต่เป็นสัญลักษณ์ของความหวังและความเชื่อมั่นว่า เด็กทุกคนควรได้รับการปกป้องและดูแลอย่างดีที่สุด มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยจะยังคงยืนหยัดเคียงข้างเด็กและครอบครัว เพื่อให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน และพร้อมเริ่มต้นใหม่อย่างมั่นคง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป้ายกำกับ
Child Rights Climate Change CSR Migrant SDG กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอาชีพ การจัดการภัยพิบัติ การตีตราและเลือกปฏิบัติ การพัฒนาสถานศึกษา การมีส่วนร่วมของเด็ก ครอบครัวสุขสันต์ ความยั่งยืน ความยุติธรรมในสังคม ความยุติธรรมในสังคม (Social Justice) ความรับผิดชอบต่อสังคม ความรุนแรงต่อเด็ก ความเชื่อและการพัฒนา งานรณรงค์เพื่อเด็ก จิตอาสา ทักษะชีวิตเยาวชน ทักษะอาชีพเยาวชน นโยบายการพัฒนาเด็ก น้ำเพื่อชีวิต บริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน บริจาคทุนการศึกษา บริจาคเงิน ปกป้องคุ้มครองเด็ก ประชากรข้ามชาติ ผู้นำเยาวชน พัฒนาชุมชน ภัยพิบัติ ยุติวัณโรค/End TB ยุติเอดส์/Stop AIDS สังคมแห่งการแบ่งปัน สิทธิมนุษยชน สิทธิเด็ก ส่งน้องจบ ป-ตรี อดีตเด็กในความอุปการะ เด็กข้ามชาติ เด็กยากไร้ เด็กไร้รัฐ เสียงเด็กและเยาวชน แรงงานข้ามชาติ/ประชากรข้ามชาติ แรงงานต่างชาติ

ข่าวอื่นๆ

มูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมขับเคลื่อนความปลอดภัยในสถานศึกษา สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทยในพื้นที่เสี่ยงภัย

ร่วมจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในสถานศึกษาเบื้องต้น แก่บุคลากรทางการศึกษา สพฐ.ราชบุรี เขต 1
อ่านต่อ »
0