ขจัดอุปสรรค สู่การเข้าถึงการรักษาวัณโรคของทุกคน

อีกก้าวสำคัญของคณะทำงานด้านการศึกษาปัญหาและอุปสรรคจากการตีตราและการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับวัณโรคในกลุ่มประชากรหลัก (TB Task Force on Stigma & Discrimination) ในประเทศไทย

ในสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทย แม้ว่าจะมีความพยายามในการควบคุมวัณโรคอย่างต่อเนื่อง ผ่านการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติว่าด้วยการยุติวัณโรค ซึ่งมีเป้าหมายในการลดอัตราการเสียชีวิตจากวัณโรคร้อยละ 95 และลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ร้อยละ 90 ให้ได้ภายในปี 2578 แต่ในทางปฏิบัติยังคงมีช่องว่างสำคัญในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ โดยเฉพาะในประชากรบางกลุ่ม เช่น ประชากรข้ามชาติ ผู้ใช้สารเสพติด พนักงานบริการ (Sex Workers) ผู้ต้องขัง และผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี เป็นต้น ประชากรกลุ่มเหล่านี้มักเผชิญกับอุปสรรคหลายประการในการเข้าถึงการวินิจฉัยและรักษาวัณโรค ตั้งแต่ปัจจัยทางกฎหมาย ความไม่มั่นคงด้านสถานะทางกฎหมาย การขาดข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิด้านสุขภาพ ไปจนถึงอุปสรรคด้านภาษาวัฒนธรรมและการตีตราในระบบบริการ

การตีตราและการเลือกปฏิบัติ: อุปสรรคที่มองไม่เห็นแต่ส่งผลจริง

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางการเข้าถึงบริการ คือ การตีตรา (Stigma) และ การเลือกปฏิบัติ (Discrimination) ซึ่งยังคงฝังรากลึกอยู่ในระบบบริการสุขภาพ ทัศนคติของบุคลากร และในชุมชนโดยรอบ ปรากฏการณ์นี้ส่งผลให้ผู้ป่วยวัณโรค โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มประชากรหลัก รู้สึกไม่ปลอดภัยและลังเลที่จะเข้ารับการรักษา ทั้งจากประสบการณ์ตรงหรือจากการรับรู้ว่ามีคนเคยถูกปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม เช่น การถูกตั้งคำถามด้วยถ้อยคำดูหมิ่น การเปิดเผยสถานะโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือการได้รับการบริการล่าช้ากว่าผู้อื่น ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความทุกข์ทางใจ แต่ยังเป็นสาเหตุของการหลุดจากระบบการรักษา และการวินิจฉัยที่ล่าช้า ซึ่งอาจนำไปสู่การแพร่เชื้อในวงกว้าง รวมถึงการเกิดเชื้อวัณโรคดื้อยา (Drug-resistant TB) ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อระบบสาธารณสุข

เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน ตลอดจนชุมชน จำเป็นต้องดำเนินควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ครอบคลุมและมีความละเอียดอ่อนต่อความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม ไม่ใช่เพียงในเชิงโครงสร้าง แต่ยังรวมถึงการพัฒนาองค์ความรู้และทัศนคติของผู้ให้บริการ การสร้างกลไกการรับฟังเสียงผู้ใช้บริการ และการเสริมพลังให้กับกลุ่มเปราะบางสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแนวทางการให้บริการ

จุดเริ่มต้นของความร่วมมือ: คณะทำงาน TB Task Force ด้านการตีตราและการเลือกปฏิบัติ

ในเดือนเมษายน 2568 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ผู้รับทุนหลักภายใต้โครงการยุติปัญหาวัณโรคและเอดส์ด้วยชุดบริการ RRTTPR ปี 2567-2569 สนับสนุนโดยกองทุนโลก ได้จัดการประชุมเพื่อรายงานความก้าวหน้าในการจัดตั้งคณะทำงาน TB Task Force ด้านการตีตราและการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการรวบรวมความคิดเห็นจากภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมกันพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้านในประเด็นเฉพาะด้านการตีตราและการเลือกปฏิบัติ อาทิเช่น กรมควบคุมโรค กองวัณโรค กองโรคเอดส์ องค์กรบางกอกเรนโบว์ สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนานโยบาย มูลนิธิผู้หญิงอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ คณะกรรมการกลไกความร่วมมือในประเทศ มูลนิธิวิจัยวัณโรคและโรคเอดส์ มูลนิธิรักษ์ไทย มูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย และ LFA โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการสร้างระบบบริการวัณโรคที่ปลอดจากอคติ

การประชุมครั้งนี้ยังได้หารือถึงการจัดเก็บข้อมูล ตัวชี้วัด TB O-9 (ร้อยละของผู้ป่วยวัณโรคที่รายงานว่าถูกตีตราจากชุมชน ซึ่งส่งผลต่อการเข้าถึงบริการ) เป็นตัวชี้วัดใหม่ที่มุ่งเน้นการติดตามผลกระทบทางสังคมจากมุมมองของผู้ป่วยอย่างแท้จริง ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการบูรณาการ ประสบการณ์ของผู้ป่วย เข้าสู่ระบบข้อมูลของการควบคุมวัณโรค ไม่เพียงเพื่อการเฝ้าระวังเท่านั้น แต่ยังมีเป้าหมายเพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้ วิเคราะห์แนวโน้มของการตีตราในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการ พัฒนาแนวทางการตอบสนองเชิงนโยบาย ที่ตรงจุดและมีความละเอียดอ่อนต่อบริบทในท้องถิ่น ทั้งนี้
มีการหารือร่วมกันถึงแนวทางการจัดเก็บข้อมูล TB O-9 อย่างมีจริยธรรม ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ให้ข้อมูล เพื่อให้เสียงของผู้ป่วยวัณโรคได้รับการสะท้อนอย่างครบถ้วนและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบอย่างเป็นรูปธรรม

ความหวังต่ออนาคต: เปลี่ยนระบบเพื่อทุกคน สู่ระบบสุขภาพที่ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ความก้าวหน้าของการจัดตั้ง TB Task Force ด้านการตีตราและการเลือกปฏิบัติในครั้งนี้ นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการพัฒนาดัชนีการตีตราและการเลือกปฏิบัติต่อผู้ป่วยวัณโรค ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพให้สะท้อนถึงหลักความเสมอภาคและความเป็นธรรมในสังคมอย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืน การดำเนินงานในระยะถัดไปจำเป็นต้อง:

• ส่งเสริมกลไกการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ
• สนับสนุนการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ให้เข้าใจประเด็นความหลากหลาย
• พัฒนาแผนสื่อสารสาธารณะเพื่อลดอคติในสังคม
• และสำคัญที่สุด คือการสนับสนุนบทบาทของประชากรข้ามชาติและประชากรหลักให้มีพื้นที่ในการสื่อสารและกำหนดทิศทางของระบบที่พวกเขามีส่วนได้ส่วนเสีย

ในที่สุด เป้าหมายของการยุติวัณโรคในประเทศไทยจะไม่อาจเกิดขึ้นได้หากยังมีบางกลุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม และยังต้องเผชิญกับการตีตราทั้งจากระบบและสังคมโดยรอบ การสร้างระบบสุขภาพที่มีมนุษยธรรมและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คือหัวใจของการขับเคลื่อนในครั้งนี้ TB Task Force ด้านการตีตราและการเลือกปฏิบัติจึงมิใช่เพียงคณะทำงานเชิงเทคนิค แต่คือ กลไกแห่งความหวัง ที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ความเท่าเทียมเป็นจริง ไม่ใช่เพียงในนโยบาย แต่ในทุกระดับของการดูแลรักษา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป้ายกำกับ
Child Rights Climate Change CSR Migrant SDG กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอาชีพ การจัดการภัยพิบัติ การตีตราและเลือกปฏิบัติ การพัฒนาสถานศึกษา การมีส่วนร่วมของเด็ก ครอบครัวสุขสันต์ ความยั่งยืน ความยุติธรรมในสังคม (Social Justice) ความรับผิดชอบต่อสังคม ความรุนแรงต่อเด็ก ความเชื่อและการพัฒนา งานรณรงค์เพื่อเด็ก จิตอาสา ทักษะชีวิตเยาวชน ทักษะอาชีพเยาวชน นโยบายการพัฒนาเด็ก น้ำเพื่อชีวิต บริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน บริจาคทุนการศึกษา บริจาคเงิน ปกป้องคุ้มครองเด็ก ประชากรข้ามชาติ ผู้นำเยาวชน พัฒนาชุมชน ภัยพิบัติ ยุติวัณโรค/End TB ยุติเอดส์/Stop AIDS สังคมแห่งการแบ่งปัน สิทธิมนุษยชน สิทธิเด็ก ส่งน้องจบ ป-ตรี อดีตเด็กในความอุปการะ อ่านออกเขียนได้ เด็กข้ามชาติ เด็กยากไร้ เด็กไร้รัฐ เสียงเด็กและเยาวชน แรงงานข้ามชาติ/ประชากรข้ามชาติ แรงงานต่างชาติ

ข่าวอื่นๆ

วุฒิชัย เด็กชายหัวใจแกร่ง จากอุบัติเหตุสู่เส้นทางแห่งความหวัง

เมื่ออุบัติเหตุในวัย 4 ขวบเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล แต่ด้วยพลังใจของครอบครัว และความช่วยเหลือจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ วันนี้เขากลับมายิ้มได้อีกครั้ง พร้อมความฝันที่อยากเป็นครู
อ่านต่อ »

ปักธงยุติการตีตรา ยุติวัณโรคและเอดส์ที่ จ.ระนอง

มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยผนึกกำลังกับภาครัฐ มุ่งหน้าเผชิญความท้าทายเพื่อยุติปัญหาวัณโรคและเอดส์ในกลุ่มประชากรหลักในจังหวัดระนอง
อ่านต่อ »

Login

Register

terms & conditions

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า