“จากนี้ถ้าบ้านไหนน้ำหมด ก็แค่เอาถังเปล่ามากรองเอาเลย ไม่ต้องเสียเงินซื้อน้ำถังอีกต่อไป”นี่คือเสียงที่แสดงความยินดีของผู้ใหญ่เดชา หนึ่งในผู้นำชุมชนตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ที่ชีวิตของเขาและชาวบ้านกว่า 1,900 คนได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากได้รับการสนับสนุนจากเฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย
“แต่ก่อนนี้เวลาน้ำหมด เราต้องออกไปซื้อน้ำถังตลอด ถังละ 17 บาท อาทิตย์หนึ่งบ้านผมใช้ราว 6 ถัง เป็นเงิน 102 บาท” ผู้ใหญ่เดชา เล่าถึงชีวิตประจำวันที่ต้องพึ่งพาน้ำดื่มบรรจุถังเป็นหลัก
ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เป็นชุมชนชนบทที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงทรัพยากรพื้นฐานอย่างน้ำสะอาดและไฟฟ้าที่เสถียร โดยเฉพาะการพึ่งพาแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่ไม่มั่นคงและภาระค่าใช้จ่ายเกินกำลัง
“ไฟที่นี่ดับบ่อยมาก โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน เมื่อมีฟ้าผ่า เขาก็ต้องตัดไฟ กว่าจะได้ซ่อมก็เป็นช่วงเช้า และกว่าน้ำจะไหลก็หมดไปกว่าครึ่งวัน” พี่เก๋ หรือนายกิตติพล ตัวแทนชาวบ้านอธิบายถึงสถานการณ์ที่พวกเขาต้องเผชิญ
นอกจากนี้ ชุมชนยังมีปัญหาในเรื่องกำลังการผลิตน้ำที่ไม่เพียงพอ พี่เก๋เล่าว่า “ระบบน้ำประปาของเราผลิตไม่ทันต้องใช้ระบบไฟฟ้าเข้ามาช่วย ซึ่งมีต้นทุนสูง อย่าในหมู่บ้านเรา เดือน ๆ หนึ่งต้องเสียค่าไฟตกหลักหมื่นบาท แต่ก็ยังผลิตน้ำไม่ทันความต้องการ เพราะมีผู้ใช้น้ำเกือบ 300 คร้วเรือน”
จากปัญหาดังกล่าว เฟดเอ็กซ์ คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการขนส่งสินค้าด่วนระดับโลก ได้ร่วมมือกับมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการติดตั้งระบบกรองน้ำจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับชุมชนในพื้นที่ตำบลป่าเด็ง
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากอาสาสมัครของเฟดเอ็กซ์ ประเทศไทย เดินทางมาร่วมมือกับพี่น้องในชุมชนป่าเด็งในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์และระบบกรองน้ำ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่กว่า 1,900 คน ครอบคลุมถึง 4หมู่บ้าน
คุณศศธร ภาสภิญโญ กรรมการผู้จัดการ เฟดเอ็กซ์ ประเทศไทย กล่าวว่า “น้ำและไฟฟ้า เป็นรากฐานที่สำคัญต่อความเป็นอยู่ของทุกคนในสังคม ที่เฟดเอ็กซ์ เรามุ่งมั่นในการส่งมอบโซลูชันที่จะช่วยตอบสนองความต้องการของชุมชนในจุดที่ความช่วยเหลือเข้าถึงได้น้อย โครงการนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของเฟดเอ็กซ์ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คนในชุมชนป่าเด็งผ่านการเพิ่มการเข้าถึงทรัพยากรที่สำคัญเหล่านี้”
“ชาวบ้านดีใจมากครับ ที่มูลนิธิศุภนิมิตฯและเฟดเอ็กซ์ได้เอาเครื่องกรองน้ำมาให้ ไม่ต้องไปซื้อน้ำถัง” ผู้ใหญ่เดชากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เครื่องกรองน้ำนี้เราติดตั้งที่ศาลาประชาคมกลางหมู่บ้าน บ้านใครน้ำหมดก็เอาถังเปล่ามากรอกได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่าย”
สำหรับพี่เก๋ เขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในชีวิตประจำวันของชุมชน “ไม่กี่วันก่อนมีการทดลองติดตั้งแล้ว ชาวบ้านดีใจมาก มีน้ำไหลตลอด ระบบนี้เป็นพลังงานแสงอาทิตย์โดยตรง พอหมดแสงระบบก็จะหยุด แล้วเราก็จะใช้ระบบไฟฟ้าทำงานต่อในตอนกลางคืน”
“การใช้ชีวิตประจำวันของชาวบ้านสะดวกขึ้นมาก ไม่ขาดน้ำ สามารถนำไปใช้ในภาคการเกษตรได้ด้วย แต่ก่อนแม้แต่น้ำรดต้นไม้ก็ยังไม่พอ แต่พอมีระบบโซลาร์เซลล์นี้มาช่วย เราสูบน้ำได้มากขึ้น ชาวบ้านมีน้ำใช้โดยไม่ต้องกังวล เลี้ยงสัตว์ได้ ปลูกผักสวนครัวได้” พี่เก๋เล่าต่อด้วยความภาคภูมิใจ
ด้านคุณอลอนโซ ลี ผู้จัดการฝ่ายคุณภาพการดำเนินพันธกิจภาคสนาม มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการนี้สอดคล้องกับพันธกิจของเราในการส่งเสริมการพึ่งพาตนเองของชุมชนผ่านแนวทางการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน การร่วมมือกับเฟดเอ็กซ์ในการสร้างแหล่งพลังงานและน้ำที่มั่นคงนี้ เป็นการช่วยให้คนในชุมชนป่าเด็งสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น”
ในวันที่แสงอาทิตย์ส่องสว่างเหนือหมู่บ้านป่าเด็ง ไม่เพียงแต่เป็นพลังงานที่หมุนเวียนแผงโซลาร์เซลล์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับชุมชนแห่งนี้ ที่นี่ แสงอาทิตย์ไม่ได้เพียงแค่ให้พลังงาน แต่ยังมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านน้ำที่สะอาดและเพียงพอสำหรับทุกคน
“ผมขอขอบคุณมาก ๆ ที่ให้ระบบโซลาร์เซลล์มาช่วยในการผลิตน้ำประปา เป็นประโยชน์กับชาวบ้านมาก ๆ เห็นผลจริง ผมไปพูดคุยกับชาวบ้านมาแล้ว ทุกคนดีใจมาก ที่มีน้ำไหลได้ใช้ ได้ดื่มตลอด” พี่เก๋กล่าวปิดท้ายด้วยรอยยิ้มแห่งความปิติ