เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้จัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณการแก้ไขสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้สัญชาติภายใต้ชื่องาน “Bringing the light for the Human Rights นำแสงสว่างสู่สิทธิมนุษยชน” โดยได้รับเกียรติจากคุณเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มาเป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวแสดงความขอบคุณและยกย่องผู้ที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานด้านการแก้ไขปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้สัญชาติในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม
ในงานนี้ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ได้รับการยกย่องและมอบโล่ประกาศเกียรติคุณรวมทั้งสิ้น 3 รางวัล ได้แก่
รางวัลระดับองค์กร ในฐานะองค์กรที่มีบทบาทเชิงรุกในการบูรณาการความช่วยเหลือบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้สัญชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
รางวัลระดับบุคคล ซึ่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่มีผลงานโดดเด่น ได้แก่ คุณสุมิตร วอพะพอ ผู้เชี่ยวชาญด้านสถานะบุคคลและสิทธิ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย คุณหลินฟ้า อุปัชฌาย์ ผู้จัดการโครงการพัฒนาสถานะบุคคลและสิทธิสำหรับเด็กและเยาวชนไร้รัฐไร้สัญชาติ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย
จุดเด่นสำคัญของมูลนิธิศุภนิมิตฯ อยู่ที่การบูรณาการการทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคประชาสังคม และชุมชนท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการพัฒนาเครื่องมือและแนวทางการทำงานที่ตอบโจทย์ปัญหาเฉพาะของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการผลักดันเชิงนโยบายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่ทุ่มเทและมีความรู้ลึกในด้านสถานะบุคคลและสิทธิ เช่น คุณสุมิตร วอพะพอ และคุณหลินฟ้า อุปัชฌาย์ ซึ่งได้รับรางวัลระดับบุคคลในครั้งนี้
นอกจากนี้ คุณสุมิตร วอพะพอ ยังได้รับเกียรติเป็นหนึ่งในวิทยากรบนเวทีเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ ‘ประสบการณ์การบูรณาการช่วยเหลือบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้สัญชาติที่มีประสิทธิภาพ’ โดยเน้นย้ำถึงปัญหาสำคัญของ เด็กไร้รัฐไร้สัญชาติ คือไม่สามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้อย่างเท่าเทียม เช่น การศึกษา การเดินทาง การรักษาพยาบาล และการคุ้มครองทางกฎหมาย เป็นต้น
“เด็กที่ไม่มีสถานะบุคคลหรือสัญชาติคือเด็กที่ไม่มีเสียงในระบบรัฐ พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานที่ควรได้รับในฐานะมนุษย์ และเราต้องไม่ปล่อยให้พวกเขาถูกลืม เราจึงเดินหน้าทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคประชาสังคม เพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย และสร้างระบบที่เปิดโอกาสให้ทุกคนในประเทศไทยเข้าถึงสิทธิเหล่านี้ได้อย่างเท่าเทียม” คุณสุมิตร กล่าวบนเวทีเสวนา


