เปลี่ยนเสียงเป็นพลัง สร้างการเปลี่ยนแปลง

มูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมกับมูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย เสริมสร้างต้นแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาคในระบบสุขภาพให้เข้มแข็งและยั่งยืน

ในประเทศไทย แม้ว่าการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่กลุ่มประชากรบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มประชากรหลัก (Key Populations) ที่เผชิญกับความเสี่ยงสูงต่อวัณโรคและเอชไอวี ยังคงถูกกีดกันจากระบบสุขภาพเนื่องจากการตีตราและการเลือกปฏิบัติ การแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องการกลไกที่ตอบสนองจากระดับรากหญ้า ซึ่งเป็นที่มาของ ‘บ้านเสมอ’ รูปแบบการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ความเสมอภาคทางเพศ และการสร้างระบบสุขภาพที่ยั่งยืนจากชุมชนสู่ชุมชน

บ้านเสมอ: พื้นที่ปลอดภัยที่ชุมชนร่วมสร้างเพื่อสิทธิ ความเสมอภาค และสุขภาวะ

การเข้าถึงบริการด้านสิทธิและสุขภาพอย่างเท่าเทียมยังเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้มีเชื้อเอชไอวี ผู้ใช้สารเสพติด และผู้ป่วยวัณโรค ที่มักเผชิญกับการตีตราและเลือกปฏิบัติ ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีในการทำงานด้านสิทธิในประเด็นเอชไอวี มูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย (FAIR) ร่วมกับกรมควบคุมโรค และภาคีทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม ได้พัฒนา ‘สวัสดีปกป้อง’ หรือ ระบบรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองการละเมิดสิทธิด้านเอดส์ สุขภาวะทางเพศ และประชากรเปราะบางต่อการถูกเลือกปฏิบัติ (Crisis Response System: CRS) ตั้งแต่ปี 2562 โดยเริ่มดำเนินงานใน 14 จังหวัด

ในปี 2567 FAIR ได้ต่อยอดระบบดังกล่าวเป็น ‘บ้านเสมอ’ ภายใต้โครงการยุติปัญหาวัณโรคและเอดส์ด้วยชุดบริการ RRTTPR ปี 2567-2569 สนับสนุนโดยกองทุนโลกและมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เพื่อขจัดอุปสรรคด้านสิทธิมนุษยชนและเพศภาวะในการเข้าถึงบริการด้านวัณโรคและเอชไอวี ‘บ้านเสมอ’ ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าในการรับเรื่องร้องเรียน บันทึกข้อเท็จจริง ให้ข้อมูลและคำปรึกษา พร้อมประสานส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยดำเนินการผ่านทีมสหวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมให้บริการครอบคลุม 4 ด้านหลัก ได้แก่

บริการด้านสิทธิ กฎหมาย และการถูกเลือกปฏิบัติ
บริการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด (Harm Reduction)
บริการด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์
บริการด้านสุขภาพจิตและสุขภาวะ

หัวใจสำคัญของบ้านเสมอ คือ การออกแบบบริการที่เข้าใจผู้รับบริการ โดยคำนึงถึงการพัฒนากลุ่มเป้าหมายร่วมกัน (Targeting Triage) ความหลากหลายของผู้คน (Diversity) ความทับซ้อนของอัตลักษณ์ และบริบทเฉพาะของแต่ละคน เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทเฉพาะของแต่ละบุคคล โดยยึดหลักข้อเท็จจริง (Veracity) ให้สอดคล้องกับค่านิยม (Value) ของชุมชน พร้อมการทำงานเชิงข้อมูล การวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ และการประสานความร่วมมือจากหลายสาขาวิชาชีพ ทำให้บ้านเสมอสามารถพัฒนาการจัดการกรณีการละเมิดสิทธิได้อย่างเป็นระบบ และนำไปสู่การขับเคลื่อนเชิงนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ

บ้านที่ ‘เสมอ’ สำหรับทุกคน

คำว่า ‘บ้านเสมอ’ มีความหมายนั้นคือ ‘เสมอ’ หมายถึง ความเสมอภาค (Equality) และ ‘บ้าน’ หมายถึง สถานที่ที่เปิดรับทุกคนอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าผู้เข้ารับบริการจะอยู่ในสถานการณ์แบบใด ต้นแบบนี้จึงเป็นมากกว่ากลไกการรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองสิทธิ แต่ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน (Community-led Human Rights and Gender Service Model: CLHRGS) เพื่อขจัดการตีตราและการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มประชากรเปราะบาง อาทิ ผู้ใช้สารเสพติด ผู้มีเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยวัณโรค เป็นต้น ‘บ้านเสมอ’ ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่เผชิญกับการถูกลดทอนความเป็นมนุษย์และการเลือกปฏิบัติ พร้อมพัฒนาทักษะเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการถูกละเมิดซ้ำ และสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที นี่คือการทำงานที่รวมพลังของชุมชนในการปกป้องสิทธิ ฟื้นฟูสุขภาวะ และลดการเลือกปฏิบัติและการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีสาเหตุหลักจากโรควัณโรค เอชไอวี และปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง ผ่านแนวทางการทำงานเชิงรุก เชิงระบบ และเชิงนโยบายอย่างยั่งยืน

‘บ้านเสมอ’ กลไกที่สะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการประเด็นสิทธิมนุษยชน สุขภาวะทางเพศ และการลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับวัณโรคและเอชไอวี ผ่านกลไกที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนเอง แนวคิดของบ้านเสมอ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพในระดับโลกและระดับชาติ อาทิ

ยุทธศาสตร์เอดส์โลก ปี 2564–2569
ยุทธศาสตร์ยุติวัณโรคขององค์การอนามัยโลก
แผนปฏิบัติการยุติปัญหาเอดส์แห่งชาติ ปี 2566–2569
แผนปฏิบัติการระดับชาติด้านการต่อต้านวัณโรค ระยะที่ 2 (ปี 2566–2570)
แนวทางของกองทุนโลกที่ลงทุนสนับสนุนระบบตอบสนองภาวะวิกฤตโดยชุมชน (Community-Led Crisis Response System: CRS) และการเสริมสร้างระบบสุขภาพที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน (Resilient and Sustainable Systems for Health: RSSH)

ในระบบสุขภาพที่ชุมชนมีบทบาทนำ ประชาชนไม่ใช่เพียงผู้รับบริการ แต่เป็นผู้ร่วมออกแบบ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานด้านสุขภาพ การมีส่วนร่วมของชุมชนช่วยให้สามารถ
ระบุปัญหาและอุปสรรคที่แท้จริงจากประสบการณ์ตรง
เชื่อมโยงกับระบบบริการภาครัฐและภาคีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เสริมพลังให้คนในชุมชนรู้เท่าทันสิทธิของตนเอง และสามารถปกป้องสิทธิเหล่านั้นได้

เสริมสร้าง ‘บ้านเสมอ’ ให้เข้มแข็ง: บทบาทของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ในการเชื่อมโยงทรัพยากร ความร่วมมือ และชุมชน

ภายใต้โครงการยุติปัญหาวัณโรคและเอดส์ด้วยชุดบริการ RRTTPR ปี 2567–2569 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนโลก
มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับ ‘บ้านเสมอ’ ของ FAIR ซึ่งเป็นกลไกระดับชุมชนที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความเปราะบางในหลากหลายมิติ ทั้งด้านสุขภาพ สิทธิ และความหลากหลาย โดยมูลนิธิศุภนิมิตฯ ในฐานะผู้รับทุนหลัก (Principal Recipient) ได้บริหารจัดสรรงบประมาณจากกองทุนโลกให้กับหน่วยงานดำเนินงานในพื้นที่อย่างเป็นระบบ พร้อมสนับสนุนการพัฒนาเครื่องมือที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานในชุมชน อาทิ ชุดเครื่องมือประเมินสถานการณ์ความเปราะบาง และระบบรายงานข้อมูลที่ช่วยให้สามารถติดตาม ประเมินผล และนำข้อมูลจากพื้นที่มาใช้ในการวางแผนเชิงนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับบริบทจริง

ขณะเดียวกัน มูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังทำหน้าที่เป็นกลไกกลางในการเชื่อมโยงการดำเนินงานของบ้านเสมอกับเครือข่ายภาครัฐ ภาคประชาสังคม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ เพื่อสนับสนุนให้บ้านเสมอพัฒนาไปสู่กลไกสนับสนุนที่มั่นคงและยั่งยืน ไม่ใช่เพียงการดำเนินงานชั่วคราวตามกรอบโครงการ หากแต่เป็นพื้นที่บูรณาการการดูแลด้านสุขภาพ การคุ้มครองสิทธิ การขจัดการตีตราและการเลือกปฏิบัติที่มีต่อประชากรกลุ่มเปราะบางได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการลดการแพร่ระบาดของวัณโรคและเอชไอวีในประเทศไทยในระยะยาว ทั้งนี้ ความเข้มแข็งของบ้านเสมอในฐานะกลไกชุมชนที่ทำงานเชิงรุกและสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ จะมีบทบาทสำคัญไม่ใช่เพียงการเพิ่มการเข้าถึงการรักษาเท่านั้น แต่คือการยุติปัญหา โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังภายในปี 2573 สำหรับเอชไอวี และปี 2578 สำหรับวัณโรค ตามเป้าหมายของประเทศและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างภาคประชาสังคม ภาครัฐ และองค์กรพัฒนาเอกชน ‘บ้านเสมอ’ เป็นพื้นที่ต้นแบบที่แสดงให้เห็นว่าการขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพและสิทธิมนุษยชนโดยชุมชนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนได้

ผลลัพธ์และความท้าทายของการดำเนินงาน ‘บ้านเสมอ’

ระหว่างเดือนตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568 ‘บ้านเสมอ’ ให้ความช่วยเหลือทั้งสิ้น 111 กรณี โดยผู้รับบริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประชากรหลัก ได้แก่ ผู้มีเชื้อเอชไอวี ผู้ใช้สารเสพติด และประชากรข้ามชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทย บริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ บริการลดอันตรายจากการใช้สารเสพติด และบริการด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ รองลงมาคือ บริการด้านสิทธิและกฎหมาย โดยผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ติดต่อผ่านสายด่วนบ้านเสมอ ผลลัพธ์นี้สะท้อนถึงประสิทธิภาพของการทำงานเชิงรุกที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และรับฟังปัญหาได้โดยตรงในพื้นที่ นอกจากนี้ ทุกกรณีที่เข้ารับบริการยังได้รับการ คัดกรองสุขภาพจิต เพื่อให้คำปรึกษาแบบรายบุคคล และมีการจัดกิจกรรมกลุ่มสนับสนุนเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะทางจิตอย่างรอบด้านอีกด้วย
แม้การดำเนินงานของระบบรับเรื่องร้องเรียนด้านสิทธิ (CRS) ได้ขยายไปยังหลายจังหวัดมากขึ้น แต่ในระดับพื้นที่ กลไกยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจาก ประเด็นสิทธิยังไม่ได้ถูกผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการชุมชนอย่างเป็นระบบ ความท้าทายสำคัญ ได้แก่

• การขาดการพัฒนาศักยภาพชุมชนในการรับเรื่องและจัดการข้อมูล
• การบริหารจัดการเคสยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับการวางแผนบริการในเชิงป้องกันได้
• การใช้ข้อมูลยังอยู่ในลักษณะ “รายงานผล” มากกว่า “ขับเคลื่อนการพัฒนา”
• การทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ยังแยกส่วน ขาดความเชื่อมโยงทั้งด้านข้อมูลและแนวทาง

ข้อมูลที่ถูกรวบรวมยังไม่ได้สะท้อนคุณค่าหรือความต้องการของชุมชนในแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง อีกทั้งยังไม่สามารถนำไปวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อปรับบริการในระดับนโยบายหรือใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนาและการส่งเสริมให้กลไกดังกล่าวมีศักยภาพและความพร้อม มีทรัพยากรในการดำเนินงาน เพื่อให้เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องพื้นฐานที่สามารถจัดการได้โดยชุมชนเอง แต่ควรได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งในระดับพื้นที่ และระดับนโยบาย

ก้าวต่อไปของ ‘บ้านเสมอ’

‘บ้านเสมอ’ มุ่งยกระดับบริการด้านสิทธิ กฎหมาย และการลดการเลือกปฏิบัติ รวมถึงบริการด้านสุขภาวะและมิติอื่น ๆ ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบบริการหลักอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายสำคัญใน 4 แนวทาง ดังนี้

• ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานบริการ ผลักดันให้บริการด้านสิทธิและการลดการตีตราไม่ใช่เพียง “งานเฉพาะกิจ” แต่เป็นบริการที่อยู่ในระบบหลัก มีมาตรฐานชัดเจน ตรวจสอบได้ และสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
• ใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาแบบตรงจุด ประยุกต์ใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการจำแนกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้บริการ “ตรงกลุ่ม ตรงวิกฤต ตรงเวลา” พร้อมทั้งสังเคราะห์ข้อมูลเชิงระบบ เพื่อใช้ผลักดันนโยบายที่ตอบโจทย์ความเป็นจริงในพื้นที่
• ผลักดันเข้าสู่ระบบสนับสนุนที่ยั่งยืน สร้างความเข้าใจและความร่วมมือกับหน่วยงานกำหนดนโยบาย เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้บริการเหล่านี้ได้รับการยอมรับในฐานะ “บริการสุขภาวะ” ที่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ พร้อมจัดทำแผนการเปลี่ยนผ่าน (Transition Plan) เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบการสนับสนุนที่มั่นคงในระยะยาว
• สร้างการรับรู้เรื่องสิทธิในระดับสาธารณะ ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าใจสิทธิของตนเอง (Know Your Rights) เพื่อสามารถป้องกันตนเองจากการถูกละเมิด และเข้าถึงการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

‘บ้านเสมอ’ คือต้นแบบสำคัญในการลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติ เพิ่มการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และบริการที่จำเป็นด้านวัณโรคและเอชไอวี โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรหลักที่มักถูกมองข้าม ในอนาคต ‘บ้านเสมอ’ จะไม่ใช่เพียงจุดบริการหนึ่งเดียว แต่จะขยายผลไปยังองค์กรชุมชนอื่น ๆ ทั่วประเทศ ทำงานเชื่อมโยงกับระบบสุขภาพที่มีอยู่เดิมอย่างมีมาตรฐาน แข็งแรง และต่อเนื่อง เพื่อร่วมผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการยุติปัญหาวัณโรคและเอชไอวีตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป้ายกำกับ
Child Rights Climate Change CSR Migrant SDG กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอาชีพ การจัดการภัยพิบัติ การตีตราและเลือกปฏิบัติ การพัฒนาสถานศึกษา การมีส่วนร่วมของเด็ก ครอบครัวสุขสันต์ ความยั่งยืน ความยุติธรรมในสังคม (Social Justice) ความรับผิดชอบต่อสังคม ความรุนแรงต่อเด็ก ความเชื่อและการพัฒนา งานรณรงค์เพื่อเด็ก จิตอาสา ทักษะชีวิตเยาวชน ทักษะอาชีพเยาวชน นโยบายการพัฒนาเด็ก น้ำเพื่อชีวิต บริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน บริจาคทุนการศึกษา บริจาคเงิน ปกป้องคุ้มครองเด็ก ประชากรข้ามชาติ ผู้นำเยาวชน พัฒนาชุมชน ภัยพิบัติ ยุติวัณโรค/End TB ยุติเอดส์/Stop AIDS สังคมแห่งการแบ่งปัน สิทธิมนุษยชน สิทธิเด็ก ส่งน้องจบ ป-ตรี อดีตเด็กในความอุปการะ อ่านออกเขียนได้ เด็กข้ามชาติ เด็กยากไร้ เด็กไร้รัฐ เสียงเด็กและเยาวชน แรงงานข้ามชาติ/ประชากรข้ามชาติ แรงงานต่างชาติ

ข่าวอื่นๆ

“ครอบครัวสุขสันต์” พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อยุติความรุนแรง

การอบรมหลักสูตรครอบครัวสุขสันต์และการปกป้องคุ้มครองเด็ก มูลนิธิศุภนิมิตฯ พื้นที่ดำเนินโครงการพัฒนาฯ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
อ่านต่อ »

20 ปี สึนามิ 2004 : บทเรียนแห่งความสูญเสียและความหวัง

จากรอยแผลในอดีตสู่การสร้างความพร้อมในอนาคต เรื่องราวของตะวัน ทรายอ่อน และบทบาทของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ในการสร้างชุมชนที่ยั่งยืน
อ่านต่อ »

Login

Register

terms & conditions

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า