มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยได้เข้ามาดำเนินงานในพื้นที่อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด มาเป็นเวลากว่า 10 ปี ตระหนักถึงปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานสำหรับเด็กนักเรียน
ย้อนรอยโรงอาหารเก่าอายุกว่า 48 ปี ที่พรากความปลอดภัย และสุขอนามัยของนักเรียนโรงเรียนเมืองหนองฮี ซึ่งประสพปัญหาหลายประการ ทั้งโครงสร้างหลังคาและคานไม้ผุพังเสียหายจากระยะเวลาการใช้งานอย่างยาวนานและการทำลายของปลวก พร้อมทั้งมีนกเข้ามาสร้างรังบริเวณหลังคา ทำให้สิ่งปฏิกูลอาจหล่นลงมาปนเปื้อนในอาหาร เศษไม้ที่หลุดร่วงอาจทำให้นักเรียนบาดเจ็บ กระเบื้องหลังคาแตกหักทำให้น้ำรั่วซึมเวลาฝนตก และที่สำคัญคือพื้นโรงอาหารอยู่ต่ำกว่าพื้นที่โดยรอบ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังง่ายในฤดูฝน
นายอัษฎาวุธ ช้อยชด ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองหนองฮี เล่าเสริมว่า “สภาพโรงอาหารเดิม ใช้งานมานานทรุดโทรม ประกอบกับพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่ม ในฤดูฝนมักเกิดปัญหาน้ำท่วมขัง เราต้องย้ายที่กินข้าวชั่วคราวให้กับลูก ๆ นักเรียน” ซึ่งพื้นที่ใต้ถุนอาคารเรียนก็ยังไม่เพียงพอสำหรับนักเรียนทั้งหมด จึงต้องแบ่งช่วงเวลาในการรับประทานอาหาร เพื่อบริหารจัดการพื้นที่ให้เพียงพอ
เสียงสะท้อนจากน้องไอซ์ กนกวรรณ นักเรียนหญิงที่เรียนที่โรงเรียนนี้ตั้งแต่อนุบาล 2 จนถึงปัจจุบันที่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่าถึงความรู้สึกที่ต้องใช้โรงอาหารเก่าว่า “หลังคามันเริ่มทรุดแล้วค่ะ หนูกลัวว่าตอนกินข้าวหลังคามันจะพังลงมา อีกอันคือกำแพงมันมีรอยแตกร้าว เพราะมันเก่ามากแล้ว”
เธอยังเล่าต่อว่า “โรงอาหารเดิมเล็กเกิน มีที่กินไม่พอ คุณครูก็จะให้น้องอนุบาลมากินก่อนค่ะ ต้องรอให้น้อง ๆ กินเสร็จก่อนถึงจะมากินได้ พอฝนตก น้ำก็ท่วมโรงอาหารเก่า พื้นอยู่ต่ำกว่านี้มากค่ะ” เธอเล่าย้อนถึงสภาพปัญหาที่เธอต้องเผชิญซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ด้วยความเร่งด่วนของปัญหา ผนวกกับฤดูการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ จึงได้จัด งาน LIMITLESS GRACE มื้อค่ำเพื่อขอบพระคุณ เพื่อขอบพระคุณผู้บริจาค ผู้สนับสนุน และพันธมิตร พร้อมมอบโล่เชิดชูเกียรติในฐานะบุคคลและองค์กร ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการช่วยเหลือเด็ก ครอบครัว และชุมชนที่เปราะบางยากไร้ ให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถือเป็นโอกาสอันดีในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนงบประมาณในการสร้างโรงอาหารดังกล่าว และด้วยน้ำใจจากพลังแห่งการแบ่งปันครั้งนั้นจึงเกิดเป็น โครงการโรงอาหารสะอาด ได้มาตรฐาน นักเรียนสุขภาพดี ซึ่งเป็นที่ประจักษ์วันนี้
เมื่อได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ โรงเรียนได้ย้ายที่ตั้งโรงอาหารใหม่และปรับปรุงพื้นที่ให้สูงขึ้น “เดิมเราแก้ปัญหาด้วยการย้ายโรงอาหารชั่วคราวไปที่ใต้ถุนอาคารเรียน มันไม่เป็นสัดส่วน พอเราได้โรงอาหารจากมูลนิธิศุภนิมิต เด็ก ๆ ได้นั่งกินข้าวที่โรงอาหารใหม่ เขาดีใจ ได้กินข้าวอย่างมีความสุข” ผอ.อัษฎาวุธ เล่าเสริม
น้องไอซ์เล่าด้วยความดีใจว่า “หนูรู้สึกดีใจมากค่ะ เราไม่ต้องทนกับหลังคาที่โรงอาหารเก่า หนูไม่ต้องกลัวว่าหลังคาอันเก่ามันจะตกลงมา เพื่อน ๆ ก็ดีใจกันทั้งหมดเลยค่ะ ทุกคนเฝ้ารอที่จะได้โรงอาหารใหม่เลยค่ะ”
“หนูรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากค่ะ เพื่อน ๆ ก็เหมือนกัน ตอนนี้หนูกับเพื่อน ๆ ได้ใช้งานโรงอาหารใหม่แล้วค่ะ หนูอยากมาใช้อีกเรื่อย ๆ เลยค่ะ เพราะทั้งสะอาดและแข็งแรงค่ะ” เธอเล่าต่อแกมน้ำเสียงตื่นเต้น
โดยในเดือนมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา นายอาฐินนท์ พึ่งสันเทียะ ผู้จัดการฝ่ายดำเนินพันธกิจภาคสนามกลุ่มพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ ตัวแทนมูลนิธิศุภนิมิตฯ และผู้ใหญ่ใจดี ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อส่งมอบโรงอาหารหลังใหม่ให้กับคณะครูและน้อง ๆ นักเรียนท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับที่อบอุ่น
ผอ. อัษฎาวุธ กล่าวขอบคุณด้วยความซาบซึ้งว่า “ผมในนามผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองหนองฮี เราได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน การสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างอาคารสถานที่ ครั้งนี้ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างโรงอาหาร เป็นประโยชน์ต่อเด็ก ๆ นักเรียนเป็นอย่างมาก เขาได้กินข้าวในโรงอาหารใหม่ ถูกสุขอนามัย เสริมสร้างความพร้อมในเรื่องการเจริญเติบโต เตรียมพร้อมในการเรียนรู้ของเขา ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านครับ”
ด้านน้องไอซ์ก็กล่าวคำขอบคุณด้วยความจริงใจว่า “ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านค่ะ พวกหนูจะใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด จะช่วยกันรักษาความสะอาด จะทำให้โรงอาหารนี้ใช้ได้นาน ๆ ค่ะ” เธอยังกล่าวเสริมด้วยความเข้าใจในคุณค่าของความช่วยเหลือที่ได้รับว่า “ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิศุภนิมิตฯ โรงอาหารเดิมก็จะผุพังไปเรื่อย ๆ พวกหนูก็จะไม่มีโรงอาหารใช้เลยค่ะ”
โรงอาหารสะอาด ได้มาตรฐาน นักเรียนสุขภาพดี จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีที่ร่วมระดมทุน บริจาคสนับสนุนการก่อสร้างในครั้งนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย และเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเด็กนักเรียนอย่างยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ตั้งแต่โรงเรียน ชุมชน และองค์กรที่ให้การสนับสนุน เพื่อให้เด็กไทยได้รับการศึกษาและโภชนาการที่มีคุณภาพ