กว่า 27 ปี ที่มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ได้ทุ่มเททำงานพัฒนาชุมชน อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ภายใต้ ‘โครงการพัฒนาชุมชนเป็นพื้นที่แบบพึ่งตนเองและยั่งยืนพญาพิภักดิ์’ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เพียงเป็นการอุปการะและช่วยเหลือ แต่คือการสร้างโอกาสและเสริมพลังให้เด็ก ครอบครัว และชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ตลอดการดำเนินงาน โครงการได้อุปการะเด็กมากกว่า 4,585 คน และสนับสนุนครอบครัวกว่า 4,226 ครอบครัว ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมส่งเสริมการพัฒนาในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น การศึกษาของเด็กและเยาวชน ให้ได้รับโอกาสเรียนต่อในระดับสูงขึ้น มีงานทำ และสามารถดูแลตนเองและครอบครัว การเสริมสร้างครอบครัว ผ่านกิจกรรมครอบครัวสุขสันต์ การให้ความรู้เรื่องการเลี้ยงดูเด็กที่เหมาะสม การคุ้มครองปกป้องเด็ก และการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว การพัฒนาชุมชน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภัยพิบัติทางธรรมชาติ และงานด้านอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในอีกหลากหลายมิติ
ทั้งหมดนี้คือ ‘พันธกิจแห่งการพัฒนา’ ที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ตั้งใจมอบให้กับชุมชนพญาพิภักดิ์ และเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืน
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 มูลนิธิศุภนิมิตฯ พื้นที่โครงการพัฒนาพญาพิภักดิ์ ได้จัด ‘งานเฉลิมฉลองและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เนื่องในโอกาสสิ้นสุดการดำเนินงาน’ โดยบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น ภาคภูมิใจ และความร่วมมือจากทุกฝ่าย ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการและผลงานที่สะท้อนผลสำเร็จของโครงการ อาทิ โครงการส่งเสริมทักษะอาชีพนักเรียน โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำเยาวชน ผลงานศิลปะจากอดีตเด็กในความอุปการะ การแสดงความสามารถของนักเรียนในพื้นที่
งานครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายยศพงศ์ ตุลาชม ปลัดอาวุโสอำเภอเวียงแก่น เป็นประธาน พร้อมด้วย นายนรเศรษฐ์ กมลาสน์กมุท นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปอ นายนู พงศ์นวบูรณ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ นางรสลิน โกแวร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตฯ ผู้บริหาร อาสาสมัคร และแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง
นายนู พงศ์นวบูรณ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ กล่าวว่า “ตลอด 27 ปีที่ผ่านมา มีเด็กและครอบครัวนับพันที่ได้รับการอุปการะและการสนับสนุน จนสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน วันนี้คือก้าวสำคัญในการส่งต่อพันธกิจนี้ให้ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสืบสานให้โครงการพัฒนาพญาพิภักดิ์เป็นพื้นที่พัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่องต่อไป”
ด้านนายยศพงศ์ ตุลาชม ปลัดอาวุโสอำเภอเวียงแก่น กล่าวเสริมว่า “สิ่งที่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ทำมาตลอด ถือเป็นการเสริมสร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเด็ก ครอบครัว และชุมชน อีกทั้งยังสนับสนุนการทำงานของภาครัฐในด้านการศึกษาและการสร้างอาชีพที่มั่นคง ผมขอขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วม พร้อมยินดีที่จะสานต่อพันธกิจนี้ร่วมกับชุมชน เพื่อให้พื้นที่แห่งนี้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน”
ในโอกาสสิ้นสุดโครงการ มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ส่งมอบพันธกิจการพัฒนาแก่หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน เพื่อให้ชุมชนพญาพิภักดิ์สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และก้าวสู่การเป็น ‘ชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืน’ อย่างแท้จริง


